ภาคกลางของทตโตริมีเมืองคุราโยชิเป็นศูนย์กลาง เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมายทั้งกลุ่มโกดังกำแพงขาว หรือวัดซัมบุตสึจิ แถมยังเป็นดินแดนต้นกำเนิดของการ์ตูน “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ซึ่งมีพิพิธภัณฑ์ให้ตามรอยอีก เราจะแนะนำทั้งที่เที่ยว อาหาร และการเดินทาง!
“ภาคกลางของจังหวัดทตโตริ” มีอะไรบ้างนะ?
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
ภาคกลางของจังหวัดทตโตริ ซึ่งมีศูนย์กลางเป็น เมืองคุราโยชิ แห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรโฮกิในสมัยนาราซึ่งเป็นยุคของการปกครองของเหล่าขุนนาง (ปี 710 – 794) หลังจากนั้น ตั้งแต่ สมัยเอโดะ (ปี 1603 – 1868) จนถึงสมัยเมจิ (ปี 1868 – 1912) ก็กลายเป็นเมืองพ่อค้าอันเจริญรุ่งเรือง บอกเลยว่า กลุ่มโกดังกำแพงขาว ซึ่งสร้างขึ้นมาโดยเหล่าพ่อค้าในสมัยนั้นถือว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ควรค่าแก่การแวะมาชมให้ได้สักครั้งสุด ๆ
บริเวณใกล้กับเมืองคุราโยชิเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายอยู่กระจายตัวกันไป ไม่ว่าจะเป็น มิซาสะออนเซ็น ซึ่งว่ากันว่ามีสรรพคุณในการรักษาทุกโรคและ วัดซัมบุตสึจิ เขามิโตขุ (Mitokusan Sanbutsuji) วัดศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสร้างขึ้นบนหน้าผาสูงชันด้วยเทคนิคอันราวกับปาฎิหาริย์ จึงขอแนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่มีความสนใจในญี่ปุ่นโบราณเลยค่ะ ^^
นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังเป็นบ้านเกิดของ “คุณโกโช อาโอยาม่า” นักเขียนการ์ตูนชื่อดังเจ้าของผลงานเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” ด้วยนะไฮไลท์ก็คือ มีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เข้าชมภาพผลงานเกี่ยวกับโคนันกันอย่างหน่ำใจเลยทีเดียว สำหรับแฟนพันธุ์แท้โคนันหรือคอการ์ตูนจึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!
วิธีการเดินทางไปยังภาคกลางของจังหวัดทตโตริ
บริเวณโดยรอบเมืองคุราโยชิภาคกลางของจังหวัดทตโตรินั้น นับเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเลยก็ว่าได้
วิธีการเดินทางไปยังเมืองคุราโยชินั้นก่อนอื่นให้เดินทางจากนอกจังหวัดหรือต่างประเทศมายังเมืองทตโตริหรือเมืองโยนาโกก่อน หลังจากนั้นค่อยนั่งรถไฟหรือรถบัสต่อมาที่เมืองคุราโยชิแห่งนี้
วิธีการเดินทางมาจากเมืองทตโตริ
เราสามารถนั่งรถไฟ “Limited Express Super Oki” หรือ “Tottori Liner” จากสถานีทตโตริมาลงที่สถานีคุราโยชิได้อย่างสะดวกสบาย
การเดินทางมาด้วยรถไฟด่วนพิเศษ “Super Oki” ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าโดยสาร 2,140 เยน ส่วนการเดินทางมาด้วยรถไฟ “Tottori Liner” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 670 เยน
สำหรับใครที่เดินทางจากนอกจังหวัดหรือต่างประเทศมายังทตโตริด้วยเครื่องบินก็ให้ใช้บริการสนามบินทตโตริโดยตรงได้เลย การเดินทางจากสนามบินมาถึงสถานีคุราโยชิโดยรถบัสใช้เวลาประมาณ 45 นาที ค่าโดยสาร 1,200 เยน
สำหรับวิธีการเดินทางจากโตเกียว ฟุกุโอกะ โอซาก้า และฮิโรชิม่ามาถึงเมืองทตโตริสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ “ไกด์แนะนำภาคตะวันออกของจังหวัดทตโตริ”
วิธีการเดินทางมาจากเมืองโยนาโกะ
ส่วนใครที่ต้องการเดินทางจากสถานีโยนาโกะมาถึงคุราโยชิให้นั่งรถไฟ “Limited Express Super Matsukaze” หรือ “Tottori Liner” มาลงที่สถานีคุราโยชิได้เลย
การเดินทางมาด้วยรถไฟด่วนพิเศษ “Super Matsukaze” ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าโดยสาร 2,870 เยน ส่วนการเดินทางมาด้วยรถไฟ “Tottori Liner” ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสาร 970 เยน
สำหรับวิธีการเดินทางจากโตเกียว ฟุกุโอกะ โอซาก้า และฮิโรชิม่ามาถึงเมืองทตโตริสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ “ไกด์แนะนำภาคตะวันตกของจังหวัดทตโตริ”
วิธีการเดินทางภายในภาคกลางของจังหวัดทตโตริ
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยววนรอบแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ บริเวณรอบนอกเมืองคุราโยชิขอแนะนำให้ใช้บริการรถบัสหรือรถแท็กซี่จะสะดวกที่สุด
เนื่องจากมีจำหน่ายตั๋วฟรีพาส “NorihoudaissTegata” แบบบุฟเฟ่ต์สำหรับขึ้น-ลงรถบัสภายในจ.ทตโตริแบบไม่อั้นด้วย จึงขอแนะนำให้ลองซื้อมาใช้ให้คุ้มค่ากันเลยค่ะ ตั๋วฟรีพาสมีอายุ 3 วัน ราคา 1800 เยน
5 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำภาคกลางของจังหวัดทตโตริ
Kurayoshi’s Shirakabe Storehouses (กลุ่มโกดังกำแพงขาวคุราโยชิ)
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
เมื่อนั่งรถบัสจาก สถานีคุราโยชิ มาประมาณ 10 นาทีก็จะพบกับกลุ่มสถาปัตยกรรมกำแพงปูนขาวกับกระเบื้องมุงหลังคาสีแดง ที่นี่คือ กลุ่มโกดังกำแพงขาวคุราโยชิ ซึ่งสร้างขึ้นมาในสมัยเอโดะ・เมจิ
แถวนี้เป็นที่ตั้งของทั้ง Akagawaraichigoukan (อาคากาวาระอิจิโกคัง) อาคารจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของเมืองที่รีโนเวทมาจากโกดังหมักโชยุใน สมัยไทโช (1912 – 1926) และยังมีร้านจำหน่ายผลงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ร้านอาหาร และร้านของหวานยอดนิยมในหมู่ชาวเมือง
กลุ่มโกดังกำแพงขาวคุราโยชิ
ที่อยู่：Vicinity of Tottori, Kurayoshi, Shinmachi 1, Higashinaka-machi, Uo-machi, and Togiya-machi
เว็บไซต์หลัก：https://www.kurayoshi-kankou.jp/eng/
Tottori Nijisseiki Pear Museum (พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิทตโตริ)
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิทตโตริ ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีคุราโยชิไม่ไกลนัก เพียงนั่งรถบัสประมาณ 10 นาที ที่แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ธีมลูกแพร์แห่งเดียวในญี่ปุ่น ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงต้นลูกแพร์ยักษ์ที่แผ่กว้างกว่า 20 เมตร รวมไปถึงมีลูกแพร์ให้ชมกันมากมายหลากหลายสายพันธุ์ แถมเราสามารถเพลิดเพลินกับการลิ้มลองลูกแพร์หลากหลายสายพันธุ์และของหวานที่ทำจากลูกแพร์ได้อย่างจุใจ
พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิทตโตริ
ที่อยู่：Tottori, Kurayoshi, Dakyojicho 198-4
เว็บไซต์หลัก ：http://1174.sanin.jp/(เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
Misasa Onsen (มิซาสะออนเซ็น)
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
มิซาสะออนเซ็น แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากสถานีคุราโยชิประมาณนั่งรถบัส 20 นาที โดยเป็นออนเซ็นขึ้นชื่อของทตโตริซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานมากกว่า 850 ปี บอกเลยว่าที่นี่มีปริมาณเรดอนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว
“มิซาสะ” เป็นภาษาญี่ปุ่นหมายถึง “เช้าที่ 3” มีตำนานว่ากันว่า “หากได้ชมยามเข้าครั้งที่ 3 (หมายถึงมาแช่ออนเซ็นถึง 3 ครั้ง) ที่มิซาสะออนเซ็นแล้วจะช่วยให้หายจากสารพัดโรค” นอกจากนี้ยังมีเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก และยังมีร้านของหวานและคาเฟ่ให้บริการอีกด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นชมเมืองหลังแช่ออนเซ็นได้อย่างชิลล์ ๆ
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวมิซาสะออนเซ็น
ที่อยู่ : Tottori, Tohaku, Misasacho, Misasa
เว็บไซต์หลัก：http://spa-misasa.jp/eng/
วัดซัมบุตสึจิ เขามิโตขุ (Mitokusan Sanbutsuji) โบสท์นาเกอิเรโด (Nageiredo)
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
ว่ากันว่า ภูเขามิโตขุ ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีคุราโยชิประมาณนั่งรถบัส 40 นาทีแห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของเหล่านักพรตชาวพุทธมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 8 โดยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักปฏิบัติธรรมชาวพุทธ และมีโบสถ์นาเกอิเรโด อาคารระดับมรดกของชาติซึ่งอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุด ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าสร้างขึ้นมาด้วยวิธีใด
โบสถ์นาเกอิเรโดนี้สร้างอยู่บนหน้าผาสูงกว่า 520 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลในสภาพคล้ายกับการเกาะติดหน้าผา เป็นโบสท์ที่งดงามและมหัศจรรย์จนคุณโดะมง เค็น ช่างภาพชื่อดังของญี่ปุ่นเคยกล่าวไว้ว่าเป็น “สถาปัตยกรรมอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น”
เนื่องจากการขึ้นไปยังโบสถ์นาเกอิเรโดจะต้องปีนเขาสูงชันอย่างยากลำบาก เราจึงจำเป็นต้องมากับเพื่อน ๆ มากกว่า 2 คนขึ้นไปพร้อมกับเตรียมเสื้อผ้าคล่องตัว รองเท้าปีนเขาหรือเสียเงินซื้อรองเท้าฟางมาใส่เดินด้วย แต่สิ่งตอบแทนที่รออยู่ก็คือทิวทัศน์ที่งดงามสุดบรรยาย
วัดซัมบุตสึจิ เขามิโตขุ
ที่อยู่：Tottori, Tohaku, Misasacho, Mitoku 1010
เว็บไซต์หลัก：http://www.mitokusan.jp/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
Gosho Aoyama Manga Factory (พิพิธภัณฑ์โกโชอาโอยาม่า)
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©Gosho Aoyama/Shogakukan
นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง คุณโกโช อาโอยามะ เกิดในเมืองไดเอ (ปัจจุบันคือเมืองโฮคุเอ) บริเวณรอบนอกเมืองคุราโยชิในปี 1963
ผลงานสร้างชื่อของเขาอย่างเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” นั้นเป็นเรื่องราวของ “เอโดกาวะ โคนัน” นักสืบจิ๋วชั้นประถมที่ใช้สิ่งประดิษฐ์สุดแสนจะมีเอกลักษณ์ของดร.ฮิโรชิ อากาสะในการสืบไขคดียาก ๆ ต่าง ๆ มากมาย โดยเป็นการ์ตูนมังงะยอดนิยมที่มีการตีพิมพ์ออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลามากกว่า 20 ปีนับตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมา แถมยังมีการนำไปทำเป็นภาพยนตร์อนิเมชันอีกมากมายหลายตอนเลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์โกโชอาโอยาม่า ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ JR Yura Station แห่งนี้ เราจะได้ที่สัมผัสกับทั้งสิ่งประดิษฐ์และเทคนิคปริศนาที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง “ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน” แถมบริเวณใกล้เคียงยังเรียงรายไปด้วยรูปปั้นทองแดงรูปตัวการ์ตูนจากเรื่องโคนันด้วยนะเออ บอกเลยว่าเราจะได้ดื่มด่ำกับโลกแห่งโคนันกันอย่างจุใจแน่นอน
พิพิธภัณฑ์โกโชอาโอยาม่า
ที่อยู่： Tottori, Tohaku, Hokueicho, Yurashuku 1414
เว็บไซต์หลัก：http://www.gamf.jp/english/
“อาหารการกิน” ภาคกลางของจังหวัดทตโตริ
เอื้อเฟื้อภาพโดย： ©จังหวัดทตโตริ
ส่วนเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวภาคกลางของจ.ทตโตริเลยนั่นก็คือ “ราเม็งท้องถิ่น” ขึ้นชื่ออย่าง ราเม็งซุปกระดูกวัว นั่นเอง ราเมงนี้มีเอกลักษณ์อยู่ที่น้ำซุปสกัดจากกระดูกวัวสุดแปลกที่หาทานได้ยากมากแม้กระทั่งในญี่ปุ่นเอง ว่ากันว่าชาวเมืองภาคกลางของจ.ทตโตรินิยมทานกันมาตั้งแต่ช่วงปี 1940 – 1950
นอกจากบริเวณโดยรอบสถานีคุราโยชิแล้ว ภายในเมืองโคโตอุระที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกถัดจากเมืองคุราโยชิเล็กน้อย (บริเวณ Urayasu Station และ Akasaki Station) ก็ยังมีร้านอีกเพียบเลย
แถมบริเวณโดยรอบกลุ่มโกดังกำแพงขาวแห่งคุราโยชิก็ยังมีร้านไทยากิและร้านของหวานอย่างไอศกรีมเจลาโต้ให้ได้ลิ้มลองกันอีกมากมาย รับรองอิ่มหนำกันถ้วนหน้า
บทส่งท้าย
โซนภาคกลางของจังหวัดทตโตริซึ่งมีศูนย์กลางเป็นเมืองคุราโยชิเป็นสถานที่อันทรงเสน่ห์ที่สามารถเพลิดเพลินกับทั้งอาคารบ้านเรือนทางประวัติศาสตร์และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ แถมยังดื่มด่ำกับโลกของการ์ตูนมังงะ ราวกับได้ท่องเที่ยวข้ามกาลเวลาเลยทีเดียว หลังจากเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวกันจนเต็มอิ่มแล้วยังสามารถแช่ออนเซ็นผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวได้อย่างชิลล์ ๆ ด้วยนะเออ
